ย้อนกลับไปเมื่อโดยประมาณ 3 ปีที่ผ่านมา มีเกมทำฟาร์ม ล่าบอสแบบ Co-op ได้ถึง 4 คน ถือว่าเกมหนึ่งที่น่าเฝ้าดูมากมายในยุคนั้น
ซึ่งก็คือ Re:Legend ซึ่งเป็นเกมที่ได้ทุนจาก Kickstarer ทะลุเป้ากว่า 10 ล้านบาทภายในระยะเวลาเพียงแค่ 10 วันเพียงแค่นั้น แต่ว่าด้วยตัวเกมที่มีฟีพบร์รวมทั้งระบบเยอะๆทั้งยังปลูกผัก ล่าบอส ตกปลา จีบผู้หญิง ทำเควส เลี้ยงสัตว์ อื่นๆอีกมากมาย จนถึงเมื่อตัวเกมได้เริ่มวางจำหน่ายแบบ Early Access (กำลังปรับปรุง) บน Steam ปรากฎว่า แผนที่ยังมีน้อยและก็เต็มไปด้วยบั๊ค แน่ๆเพราะเหตุว่าตัวเกมยังอยู่ในขั้นปรับปรุงแล้วก็เปลี่ยนแปลงตัวเกม แต่ว่าทางผู้พัฒนาก็ไม่ท้อถอย ยังคงซุ่มปรับปรุงตัวเกมถัดไปเรื่อยจนกระทั่งถึงตอนนี้ได้ประกาศว่าตัวเกมได้ปรับปรุงเสร็จสิ้น แล้วก็ออกมาจาก Early Access ของ Steam เป็นระเบียบในเวอร์ชั่น 1.0 แล้วในวันนี้ (6 ก.ย.) วันนี้ไรเตอร์ก็เลยมารีทิวทัศน์ตัวเกม Re:Legend ในเวอร์ชั่น 1.0 ว่าไม่เหมือนกับตอนตอน Early Access อย่างไรบ้าง
มองเห็นไม่เหมือนกันได้ชัดเลยจากทางด้านกราฟฟิค โดยเวอร์ชั่น 1.0 ได้มีการปรับแสงสีเงาให้แลดูอย่างเป็นธรรมชาติเยอะขึ้น จากที่สวยสดงดงามมากมายอยู่แล้วสวยสดงดงามเพิ่มมากขึ้น เปลี่ยนแปลง UI ให้กับช่วงและก็ใช้งานได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น ข้อสำคัญที่สุดของเกมก็คือ Multiplayer ที่ที่ผ่านมาพบบั๊ครุนแรงกระทั่งไม่อาจจะเล่นได้เลย ปัจจุบันนี้ได้ถูกปรับแก้กระทั่งสามารถเล่นได้อย่างลื่นไหล โดยสามารถเชิญชวนคนเข้ามาเล่นร่วมกันง่ายดาย รวมทั้งผู้ครอบครองห้อง (Host) แล้วก็เพื่อนพ้องๆที่เข้ามาหน้าจอย สามารถดำเนินเควสไปพร้อมเพียงกันได้ พร้อมระบบแสดง Ping แม้ Host และก็ผู้ที่เข้ามาหน้าจอยมีค่า Ping เกิน 180 จะแสดงตัวเลขเป็นสีแดง และก็บางทีอาจกำเนิดปัญหาแลคได้ แม้กระนั้นหากผู้ที่มีอินเตอร์เนตดีๆค่า Ping จะต่ำลงมากยิ่งกว่า 100 จวบจนบัดนี้สามารถเล่นกับสหายได้ลื่นๆไม่ประสบพบเจอปัญหาบั๊คแบบเดิมอีก
ไรเตอร์บอกตามจริงเลยเกม Re:Legend เป็นตัวเกมที่มีความสะดุดตาและก็รวมเอาระบบที่น่าดึงดูดมาไว้ร่วมกัน ตั้งแต่ ทำสวน มีปลูกผักตามฤดู คราวฟของ ตกปลา อัพเกรดบ้าน อัพเกรดร้านรวง ตกปลา จีบผู้หญิง เทศกาลของเมือง จับสัตว์เลี้ยง(แม็กนัส) อีโอ้อวดปรับปรุงร่างใหม่ได้อีก แถมจับปลามาทำสวนน้ำโอเชี่ยนหมากเวิร์คก็ได้ ด้วยกันล่าบอสแบบ Co-op เเละอีกหลายๆอย่างที่เกมปลูกผักอื่นๆไม่มี บวกกับภาพผู้แสดงอีกทั้งงามแล้วก็สวย ทำให้ Re:Legend โดนจับตามองว่าเป็นเกม ปลูกผักแฟนตาซีที่น่าดึงดูดที่สุดในยุคนั้น แม้กระนั้นเพราะว่าความทะยานอยากของตัวเกมที่พากเพียรใส่ระบบแล้วก็ฟีพบร์ที่มากเกินความจำเป็น ทำให้ตัวเกมเผชิญปัญหาทางด้านประสิทธิภาพกระทั่งจะต้องกลับไปแก้แบบยกเครื่อง จนกระทั่งตัวเกมได้เสร็จสิ้นจริงๆใน 3 ปีที่ผ่านมา